[SHINee Fiction] Besorgt (MinKey)
How do you feel when I get injured
ผู้เข้าชมรวม
534
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title: Besorgt
Rate: PG-13
Category: Romantic
Character: MinKey
Author: Mei_potties
ถ้ามีคนถามว่าคนรักของผมถนัดเรื่องไหนบ้าง ผมก็คงต้องตอบว่าทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเรียน หรือการแสดง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “กีฬา” คนรักของผมคลั่งไคล้ในการออกกำลังกายเสียยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไล่ลูกกลมๆสีขาวดำไปตามสนามหญ้า หรือแม้จะเป็นการจับลูกกลมๆสีส้มโยนลงห่วงก็เถอะ ความสามารถของเขา เป็นมากกว่าแค่ความถนัด แต่มันคือพรสวรรค์ที่ติดตัวเขามาตั้งแต่เกิด
ผมยังเคยอดสงสัยไม่ได้ว่า เขาเสียใจหรือเปล่าที่เลือกเส้นทางบันเทิง แทนการเอาดีทางด้านกีฬาฟุตบอลที่เขารัก ซึ่งผมมั่นใจว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นนักร้องอย่างในปัจจุบัน เขาคงจะเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงอยู่ ณ สโมสรใดสโมสรหนึ่งบนโลกใบนี้ก็ได้ (แม้ในใจลึกๆผมจะแอบคิดถึงแค่ทีมบาเซโลน่าทีมโปรดของเขาก็ตาม)
แต่ความคิดเหล่านั้นของผมก็เป็นอันต้องพับลง เมื่อเขาเคยกล่าวว่า ต่อให้เขาย้อนเวลากลับไปได้ เขาก็ยังเลือกที่จะก้าวเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกวงเทมโพรารี่ แทนเส้นทางที่เขาชอบนักชอบหนา น้ำเสียงหนักแน่นและดวงตากลมมีสเน่ห์ของเขา กดย้ำลงไปในความรู้สึกของผมในวันนั้น ผมยังจำมันได้ดี
.
.
.
.
.
.
“ไม่ว่าจะยังไง มินโฮก็ยังเลือกที่จะได้เจอคีย์ มากกว่าสิ่งใดทั้งหมด”
นั่นคือคำตอบจากคนรักของผม “เชวมินโฮ”
กลิ่นแดดอุ่นยามเช้า ปลุกให้ใครบางคนตื่นจากฝันอันหอมหวาน และเมื่อคีย์ลืมตาขึ้น ก็พบว่าพื้นที่ข้างกาย ว่างเปล่าเสียแล้ว รอยยุบบนพื้นที่ว่างด้านข้างเย็นชืด เป็นสัญญาณบอกว่า คนมินโฮตื่นก่อนเขานานแล้ว มือเรียวคว้าผ้าห่มที่กระจัดกระจายขึ้นมาพับ ก่อนจะผละไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย
“ทำไมไปแต่เช้าจังเลยนะมินโฮ”
.
.
.
.
.
............. RRR rrrrrrrrrr ................
เสียงโทรศัพท์เครื่องเดิมดังขึ้นดึงความสนใจของคีย์จากลูกชายทั้งสองตัว ที่เดินเข้ามาคลอเคลีย เหมือนกลัวว่า ออมม่าของมันจะเหงาเสียอย่างนั้นล่ะ พุดเดิ้ลสองตัวส่งเสียงเรียกเมื่อออมม่าคนสวยละความสนใจออกจากตัวเอง ริมฝีปากเรียวยกยิ้มขึ้นเมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้า รูปคู่ระหว่างคนสองคนที่ดูอาจจะปกติสำหรับแฟนคลับ เมื่อเทียบกับรูปแอบถ่ายตามหน้าอินเตอร์เน็ตที่ดูจะหวือหวากว่ามาก แต่กลับเต็มไปด้วยความทรงจำสวยที่เขาไม่เคยลืม ไฟดวงเล็กกระพริบถี่ขึ้น จนเจ้าของเครื่องมือสื่อสารสีขาว รีบกดรับก่อนที่มันจะดับลง
“ว่าไง มนุษย์ต่างดาว”
“...........”
“เพิ่งตื่นเนี่ยแหล่ะ มินโฮน่ะออกไปแต่เช้าทำไมกัน” เอ่ยด้วยเสียงหวานงุ้งงิ้งติดจะงอนเล็กน้อยอย่างที่เจ้าตัวชอบทำ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นจริงจัง ก็มินโฮน่ะ ทำตัวน่าหมั่นไส้จะตายไป นานๆได้แกล้งงอนมินโฮบ้างนิดหน่อย แค่นี้ก็สนุกในแบบของคิมคีย์แล้วละ
“.............................”
“ย่าาาาาาาาา เชวมินโฮ!!! หยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ!!!!” ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อเสียงนุ่มทุ้มของคนรักทำให้เหตุการณ์เมื่อคืนฉายซ้ำขึ้นมาอีกรอบ ให้ตายสิ ให้เขาได้แกล้งคืนบ้างไม่ได้เลยหรือยังไงกัน ถ้าเขาทำได้ อยากจะอัดเสียงร่างสูงเอาไปประจานเสียให้เข็ด ที่เห็นว่าคิมคีย์คนนี้ขึ้แกล้ง แต่ก็ยังไม่ได้เท่าครึ่งหนึ่งของเชวมินโฮเสียด้วยซ้ำ........ไอ้มนุษย์ต่างดาวตัวร้าย!!!!
“ไม่คุยกับมินโฮแล้ว ไปทำงานเลยไป เดี๋ยวคีย์ก็ไปทำงานแล้วเหมือนกัน”
ตารางที่อัดแน่นของมินโฮในวันนี้ ทำให้คีย์ทำได้แค่ส่งกำลังใจไปตามสายโทรศัพท์ ถึงแม้ว่ารายการ Music Core จะเริ่มถ่ายทำกันตอนบ่ายๆ แต่ชายหนุ่มจำต้องออกไปซ้อมคิวแต่เช้าตรู่ ไหนจะต้องฟิตร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งบาสในตอนเย็นอีก แต่คนอย่างมินโฮ ต่อให้งานหนักแค่ไหนก็ไม่ปริปากบ่นหรอก ก็ในเมื่อเมื่อคืนบังคับเอากำลังใจจากเขาไปตั้งมากมายแล้วนี่
.
.
.
.
.
.
.
เสียงหัวเราะสดใสของคีย์ ทำให้กมเดกับกาซองที่กำลังแย่งซูชิปลอมกันอยู่นั้นหยุดชะงัก แล้วหันมามองอมม่าของตัวเองอย่างงงๆ ดวงตาหวานจ้องไปยังชายหนุ่มคนรู้ใจในจอสีเหลี่ยมกลางห้อง วันนี้มินโฮใส่ชุดโทนขาวน้ำเงินเข้ม สวมหมวกแนวมารีน แต่คนรักของเขากลับทำตัวเหมือนเด็กชายมินโฮ มากกว่าจะเป็นกะลาสีเรือคนเท่ห์เสียอย่างนั้น แล้วนั่นอะไรกัน เจ้ามนุษย์ต่างดาวนี่โวยวายทั้งรายการเลย หนวกหูจริง และถึงแม้ว่าคีย์จะแอบคิดเช่นนั้นอยู่ในใจ แต่เขาก็ละสายตาไปจากหน้าจอไม่ได้ซะที
“คีย์ หัวเราะอะไรอยู่คนเดียว”
“เปล่าซะหน่อย ไอ้พี่เป็ด แล้วนี่โผล่ออกมาจากห้องอัดได้แล้วหรอ” คีย์หันไปยิ้มยียวนให้พี่ชายคู่กัด ก่อนถามกลับด้วยคำพูดกวนอารมณ์ไม่แพ้กัน ชายหนุ่มร่างเตี้ย(ไม่สิต้องบอกว่าไม่ค่อยสูงมากน่าจะดูสละสลวยกว่า)ยกมือขึ้นมาจะเขกหัวน้องชายเบาๆ
“ใครเป็ดพูดให้มันดีๆ ไอ้กุญแจผี”
“ใครก็ไม่รู้สิพี่จง แต่เห็นยืนเตี้ยอยู่ตรงเนี้ย บังจอชะมัด” พูดจบก็หัวเราะร่วน ก่อนจะหยุดหัวเราะแทบไม่ทันเมื่อเจอประโยคฮุคกลับของจงฮยอน
“นั่งดูสามีแล้วหัวเราะคิกคัก ระวังเถอะ ถ้าฉันบอกมินโฮมันนะ รับรองว่า คืนนี้แกจะไม่ได้นอนอีกคืน” เมื่อเอาคืนรุ่นน้องได้สำเร็จ จงฮยอนก็รีบชิ่งหนีออกจากห้องพัก ไม่สนใจเสียงโวยวายของแม่กุญแจของวงเลยแม้แต่น้อย
“ไอ้พี่เป็ดเตี้ยยยยยยยย”
.
.
.
.
.
.
.
.
“ชุดพร้อม เชค!”
“รองเท้าโอเค เชค!”
“สร้อย แว่นตาพร้อม เชค!”
“กระเป๋า เชค! แอปเปิลวอช อยู่ไหน?!!!!”
ร่างเล็กบ่นงึมงำ พลางมองหานาฬิกาเรือนโปรดของตัวเอง จำได้ว่าเขาวางไว้แถวๆโต๊ะเครื่องแป้งนี่ แล้วตอนนี้มันหายไปไหน?!! ดวงตาเรียวไล่ไปตามมุมโต๊ะด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย ก็เขาหาของไม่ค่อยเจอนี่ คนที่คอยช่วยหาก็ยังไม่กลับมาจากทำงาน ก้มๆเงยๆไปได้สักพัก ก่อนจะพบว่านาฬิกาสีฟ้าสวยตกอยู่บนพื้นข้างๆกันนี่เอง
ร่างบางสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองในกระจกอีกครั้ง ก่อนรีบลงไปหาพี่เชวจิน ที่รอเขาอยู่บนรถได้พอสมควร วันนี้เขามีงานละครเวทีที่โรงละครเซจง แล้วมันก็ใกล้ถึงเวลาที่เขาต้องไปโรงละครแล้วด้วยซ้ำ
“พี่เชวจินนนน คีย์ขอโทษน้าาาาา คือคีย์จะออกมาแล้ว แต่กมเดกับกาซองตีกันไม่เลิกเลย นี่เพิ่งแยกกันเสร็จเอง”
เชวจินยิ้มตอบก่อนจะไม่พูดอะไร ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ ว่าที่มาช้าไม่ใช่เพราะมัวแต่แยกลูกสุดที่รักหรอก น่าจะเป็นหาของอะไรซักอย่างไม่เจอมากกว่า เพราะปกติหน้าที่หาของนี้เป็นของเจ้าตัวที่ไหนกัน
เสียงเครื่องปรับอากาศบนรถดังหึ่งๆ แต่ก็ไม่ได้กลบเสียงพูดคุยของน้องชายหน้าหวาน ที่ตอนนี้เจ้าตัวกำลังสนใจอยู่กับการสนทนากับบุคคลปลายสาย
“มินโฮอาาาาา กำลังจะแข่งบาสหรือเปล่า?”
“..............................”
“แล้วนายได้อยู่ทีมไหนอะ? ทีมเดียวกับพี่คังอินไหม?”
“.................................”
“อยู่คนละทีมแบบนี้ระวังเหอะ เดี๋ยวได้โดนหมีอ้วนหล่นทับขยับตัวไปไหนไม่ได้ ฮ่าาาาาาาาาา” พูดจบก็ตบท้ายด้วยเสียงหัวเราะสะใจที่แกล้งรุ่นพี่ร่วมค่ายได้เบาๆ
“นี่คีย์กำลังจะไปโรงละครน่ะ พอไปถึงเตรียมตัวนิดนึง ก็ถึงเวลาแสดงพอดีน่ะ”
“..................................”
“เชวมินโฮ!!! คีย์เล่นเรื่องนี้เป็นพระเอกนะ พระเอกสุดหล่อน่ะ จะแต่งตัวอะไรมากมาย ไม่มาดูแล้วยังจะมากวนประสาทอีกนะ” หน้าหวานยู่ปากเบาๆ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะจากปลายสาย พร้อมคำแซวว่านางเอกเรื่อง Chess นี่ใช้เวลาแต่งตัวแป๊บเดียวเองเนอะ
“ไม่คุยกับมินโฮแล้ว ชิ่วๆ ไปแข่งบาสได้แล้วไป” ร่างเล็กเอ่ยปากไล่แบบไม่จริงจังนัก เมื่อเสียงเรียกรวมพลนักกีฬาลอดออกมาให้ได้ยินเบาๆ
“.........................................”
“อืมมมม ขอบใจนะ สู้ๆเช่นกันมินโฮ คีย์เอาใจช่วยอยู่นะ”
โทรศัพท์เครื่องเก่งถูกแทนที่ด้วยไอพอดเครื่องบาง ดวงตาเรียวเหม่อไปยังเส้นทางด้านข้างที่คุ้นเคย ทั้งๆที่เป็นงานที่เขาชอบทำมากแท้ๆ แต่รู้สึกว่าวันนี้ทำไมเขาถึงขี้เกียจขึ้นมาเสียดื้อๆ นี่เขาให้พี่เชวจินเปลี่ยนเส้นทางได้ไหมอะ อยากดูมินโฮแข่งบาสจังเลยแหะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
- เชวมินโฮ บาดเจ็บที่ข้อเท้า หลังจากกระโดดชู๊ทลูก –
พาดหัวข่าวจากหลายสำนักพิมพ์ ทำให้เขาที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะมานั่งเล่นอยู่กับพี่นักแสดงอีกซักพัก ต้องรีบขอตัวออกมาทั้งๆที่ยังถ่ายรูปเล่นกับใครหลายๆคนได้ไม่ครบดี
ดวงตาเรียวจดจ้องไปยังภาพในโทรศัพท์ ริมฝีปากฉ่ำเรียบตึง ใบหน้าเรียบสนิทของเจ้าตัว ทำให้ผู้จัดการอย่างเชวจินทำได้แค่ตบไหล่เบาๆว่าอย่าให้เขาคิดมาก สีหน้าเจ็บปวดของคนรักตัวโต ทำให้เขารู้สึกเหมือนมีอะไรหล่นวูบอยู่ในช่องท้อง ดวงหน้าหวานเต็มไปด้วยความกังวลใจ และสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกังวลมากขึ้นไปอีก คือสีหน้ายิ้มแย้มของเจ้าตัว ที่พยายามส่งมาบอกแฟนคลับว่าเขาไม่เป็นอะไรให้ทุกคนได้เป็นห่วง........ไอ้มนุษย์ต่างดาวนี่คิดอะไรอยู่นะ
ยังไม่ทันที่รถโดยสารสีขาวจะจอดได้สนิทดี คีย์ก็รีบกระโดดลงจากรถ ขาเรียวก้าวยาวไปยังห้องพักของพวกเขาอย่างฉับไว เสียงประตูห้องที่กระแทกดังโครมคราม ไม่ได้ทำให้แม่กุญแจสนใจอะไร นอกเสียจากคนรักของเขาในห้อง ทั้งๆที่คีย์มักจะเป็นคอยบ่นสมาชิกในวงทุกครั้งเวลาทำอะไรโครมคราม แต่วันนี้กลับเป็นเจ้าตัวเสียเองที่กลืนคำพูดตัวเองอยู่กลายๆ
เสียงพูดคุยของพี่ชายคนโตกับน้องสุดท้อง หยุดชะงักลงชั่วครู่ และเป็นแทมินคนแรกที่หันมาทักทายพี่ชายหน้าหวานของตัวเอง
“พี่คีย์กลับมาแล้วหรอครับ” ร่างบางพยักหน้ายิ้มรับกับคำทักทายของน้องชายที่มักจะส่งยิ้มน่ารักมาให้เขาผ่อนคลายเสมอ แต่ในวันนี้ความกังวลของเขาไม่ได้จางลงไปสักนิด
“คีย์เสียงดังนะเราน่ะ” พี่ชายคนโตส่งเสียงดุแต่ไม่ได้จริงจังมากนัก ก่อนที่จะหลุดหัวเราะออกมา คีย์ถลึงตามองอนยู ก่อนจะเสตาหลบ เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนของพี่ชายคนโตส่งกลับคืน
“ถ้าออมม่ากำลังมองหาอัปป้า แทนมินเห็นว่าอัปป้านอนอ่านหนังสืออยู่ในห้องนะครับ” น้องเล็กสุดท้องบุ้ยหน้าไปทางประตูห้องนอนของคนที่มีชื่อพาดหัวข่าววันนี้
“มองหาใครที่ไหนอะไรกัน ก็แค่รีบขึ้นมาเข้าห้องน้ำเท่านั้นละ” เสียงหวานใสบ่นอุบออกมาเบาๆ ดวงหน้าหวานขึ้นริ้วสีแดงระเรือทันที เมื่อแทมินหันไปหัวเราะคิกคักกับพี่ชายคนข้างๆอีกรอบ พร้อมส่งสายตาว่ารู้ทันเจ้าตัวกลับมา
“หรอออออออออออออออออออออออ”
“เออสิ!!! ไม่คุยด้วยแล้ว คอยดูนะ จะอดข้าวซะให้เข็ด ทั้งคู่เลย!!!” พูดจบก็กระแทกตัวปึงปังเดินออกไป ตรงไปยังห้องนอนของบุคคลที่ถูกพาดพิงในบทสนทนา
“คีย์ไหนว่าจะมาเข้าห้องน้ำไงล่ะ” เสียงพี่ชายคนโตก็ยังคงตระโกนแซวมาไม่ขาด
“ก็ห้องน้ำมันอยู่ในห้องนอนไง ไอ้พี่บ้า!!!” พูดจบก็ปิดประตูกระแทกดังปึ้ง ไม่สนใจอนยูกับแทมินที่ประสานเสียงหัวเราะให้กับความปากแข็งของคีย์ออมม่า แทมินหันไปมองอย่างรู้ทันกับอนยูก่อนจะยักไหล่เบาๆว่าเนี่ยแหละพี่คีย์ของเขาละ ก็ถ้าพี่คีย์จะเข้าห้องน้ำจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเดินอ้อมไปถึงในห้องนอนหรอกจริงไหม
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
เสียงโวยวายด้านนอกทำให้ชายหนุ่มร่างสูง ละสายตาออกจากหนังสือเล่มโปรดของเจ้าตัว ก่อนที่จะกันมายิ้มให้กับคนรักของเขา ดวงตาหม่นจ้องไปยังร่างสูงด้วยความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
“เจ็บมากหรือเปล่ามินโฮ”
“ตอนแรกอาการก็ดีขึ้นแล้ว แต่พอเห็นหน้าคีย์ มินโฮก็รู้สึกเจ็บขึ้นมาอีกรอบแล้วล่ะครับ”
และทันทีที่มินโฮสบตากับร่างบาง ร่างสูงก็กระตุกยิ้มขึ้นมาก่อนจะกุมข้อเท้าตัวเองร้องโอดโอยเบาๆ ท่าทางออดอ้อนจนเกินพอดีของร่างสูง ทำให้คีย์ถลึงสายตามองมินโฮ ก่อนจะพ่นลมหายใจออกด้วยความโล่งอก ปมคิ้วคลายออกจากกันทันทีที่รู้สึกว่าร่างสูงไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากมายตามที่เขาคิด และก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยปากอะไรออกไป ดวงตาคมของร่างสูงก็มองมาหาเขาราวกับจะขอความเห็นใจ
“ใจคอคิมคิบอมจะใจร้ายไม่เข้ามาดูแลกันหน่อยหรอครับ”
“เจ้าเล่ห์นักนะ ฝันไปเถอะมินโฮ” พูดจบก็ตั้งท่าว่าจะเดินหนีออกไป เห็นดังนั้นร่างสูงจึงรีบลุกขึ้นจากเตียงมาหาคีย์ที่ดูว่ากำลังตั้งท่าจะงอนเขาอย่างจริงจัง ทุกทีเวลางอนแง่งอนกันเล่นๆเขาก็ยังรับมือได้อยู่หรอก แต่ถ้าถึงขั้นจริงจังขึ้นมา ก็จะเป็นเขาเองนี่ละ ที่อาจจะเสียศูนย์ไปอยู่หลายวัน
และก่อนที่คีย์จะเดินไปถึงกระตูห้องนอน ดวงตาเรียวเหลือบเห็นท่าทีเก้กังของคนรักแล้วก็อดที่จะเดินกลับเข้าไปช่วยประคองเสียไม่ได้ มินโฮยังคงเจ็บขาอยู่อย่างที่เขาคิดไว้จริงๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ร้ายแรงขนาดต้องหามส่งโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เล็กน้อยจนทำให้เดินเป็นปกติได้ไปอีกซักพัก
“นั่งเถอะมินโฮ ข้อเท้ายังไม่หายดีเลยนะ”
เหมือนเป็นคำบังคับกลายๆจากคีย์ มินโฮประคองตัวเองนั่งพิงพนักเตียงตามเดิม ดวงตาคมมีเสน่ห์ตวัดมองดวงหน้าหวาน ที่ช่วยประคองเขาอยู่ไม่ห่าง คนรักของเขาเป็นคนปากแข็ง ใครๆก็รู้ แต่ทุกการกระทำนั้นกลับทำให้เขารู้สึกชุ่มชื่นในจิตใจ เพราการกระทำของคีย์ มีความหมายให้เขาเข้าใจได้ อย่างที่ไม่จำเป็นต้องเอ่ยออกมาเป็นคำพูด
“ไอ้มนุษย์ต่างดาวบ้า เจ็บขนาดนี้ทำไมต้องฝืนยิ้ม ฝืนเดินออกจากสนามเองด้วย คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกนิยายหรือไง เจ็บก็ยอมรับว่าเจ็บสิ”
ดวงตาหวานเสมองข้อเท้าของคนรัก มือเล็กแตะเบาๆไปยังจุดที่บวมออกมาอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะบ่นออกมาด้วยความเป็นห่วง และเป็นอีกครั้งที่มินโฮรู้สึกว่าคีย์ของเขา “น่ารัก”
“...............................” ร่างสูงไม่เอ่ยอะไร เพียงแต่สายตายังคงจับจ้องไปยังดวงหน้าหวาน ที่ดูเหมือนว่าจะกลับมาเป็นกังวลอีกครั้ง ไม่บ่อยนักที่คีย์จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด และก็ยิ่งไม่บ่อยกว่าหากคีย์จะพูดอะไรหวานๆออกมาให้เขาได้ยิน แทนที่จะเป็นการโวยวายกลบเกลื่อนแบบที่เจ้าตัวชอบแสดงออก
ดวงตาเรียวเผลอสบมองคนร่างสูงที่จับจ้องเขาไว้อยู่ก่อนแล้ว เหมือนเวลากำลังหยุดนิ่ง ลมหายใจอุ่นริดรดอยู่ใกล้เพียงปลายจมูกกั้น เสียงจังหวะหัวใจเต้นเหมือนมีใครมารัวกลองอยู่ในอก ดวงหน้าหวานขึ้นสีแดงระเรื่อ เมื่อร่างสูงยกยิ้มขึ้นมาเบาๆ อยากละสายตาออกไปใจจะขาด แต่ก็เหมือนมีมนต์สะกดให้ไม่สามารถทำได้อย่างใจคิด เชวมินโฮคนนี้ ทำคิมคิบอมเขินอีกแล้ว
“ยิ้มอะไรเนี่ย เจ็บจนบ้าไปแล้วหรอ” ร่างเล็กยกมือยันอกแกร่งเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงความใกล้ชิดที่เริ่มจะมากจนเกินพอดี ดวงตาหวานเสมองไปทางอื่น เมื่อดึงสติตัวเองออกมาได้อีกครั้ง
“ก็จะไม่ยิ้มได้ยังไง คีย์ออมม่าเป็นห่วงอัปป้าขนาดนี้” พูดจบก็รวบมือเล็กมากอบกุมเอาไว้ ส่วนมืออีกข้างไล้ไปตามดวงหน้าหวานเบาๆ คีย์ได้แต่อมลมกัดกระพุ้งแก้มเบาๆ กลัวว่าจะเผลอหลุดยิ้มออกมาให้คนตัวสูงได้ดีใจเล่น
“ใครเขาเป็นห่วงกัน”
“ไม่ห่วงจริงๆน่ะหรอ” ร่างสูงเอ่ยถามย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคนปากแข็งเสตาหลบอีกครั้ง “เด็กขี้โกหกน่ะ ต้องโดนทำโทษนะรู้ไหม”
“......................”
“ว่ายังไงคีย์”
ร่างสูงเคลื่อนหน้าเข้ามา เกลี่ยปลายจมูกของตัวเองกับร่างเล็กเล่นเบาๆ ดวงตาคมจดจ้องไปยังใบหน้าของคนรักขี้โวยวาย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะสิ้นฤทธิ์ลงไปชั่วขณะ ร่างสูงเผลอหลุดยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าคนน่ารักกำลังโดนต้อนให้จนมุมอีกครั้งหนึ่ง
ใบหน้าคมขยับเคลื่อนเข้าไปทีละนิด ปลายจมูกโด่งไล้ไปตามแก้มใส ริมฝีปากอุ่นกดจูบแผ่วเบาไปตามพื้นที่นุ่มที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรือ เสียงหัวเราะในลำคอของมินโฮ ทำให้ร่างเล็กขี้โวยวายคนนี้ทำอะไรไม่ถูก ลมหายใจเริ่มขาดช่วงเมื่อริมฝีปากอุ่นไล้มาใกล้ ห่างออกไปเพียงอากาศกั้น
.
.
.
“คีย์เป็นห่วงมินโฮที่สุดเลยนะ”
คนตัวเล็กเอื้อนเอ่ยด้วยเสียงอันแผ่วเบาก่อนสติทั้งหมดจะจมหายไปพร้อมกับความหอมหวาน และความอบอุ่นที่กำลังเข้าครอบครองริมฝีปากของตัวเอง
- END -
Little Talk: "Besorgt" คือภาษาเยอรมันที่แปลว่า “เป็นห่วง” ค่ะ (ก็ให้มันตรงตัวแบบนี้ละ แฮ่ๆๆๆๆ) ฟิคเรื่องนี้เกิดขึ้นมาได้จากการที่เห็นรูปมินโฮบาดเจ็บตอนเล่นบาสค่ะ พูดตรงๆว่าพล๊อตไม่มี แต่ก็อยากสนองนี๊ดตัวเองว่าถ้าน้องคีย์จะเป็นยังไงน้า (หัวเราะเลว) ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคเรื่องแรกที่เราแต่ง นับตั้งแต่ที่เราไม่ได้แตะปากกาเลย 4 ปี แล้วเรื่องนี้ก็เป็นมินคีย์เรื่องแรกเลยค่ะ ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยนะคะ เราอาจจะพลาดตรงคำผิดไปบ้าง (เพราะเราแต่งตั้งแต่เลิกงานตอนเที่ยงคืน จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้นอน ฮือออ TT0TT) แล้วก็ขอบคุณที่ติดตามจนจบค่ะ :))
ผลงานอื่นๆ ของ Mei Potties ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Mei Potties
ความคิดเห็น